วันอังคารที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2555

ขึ้นเขียงครั้งแรก เป็นใครก็กลัว

เคยขึ้นเขียงกันมั๊ยคะ เขียงที่ว่านี่ไม่ใช่อะไร เตียงผ่าตัดที่โรงพยาบาลนั่นล่ะค่ะ ขมมี่เคยขึ้นมาแล้วครั้งนึงตอนผ่าตัดทำหมัน กลับมานึกถึงความรู้สึกนั้นอีกครั้ง หลังได้ข่าวจากเพื่อนคนนึงว่า ต้องเข้ารับการผ่าตัดบายพาสหัวใจ เป็นใครๆ ก็กลัว ผ่าที่อื่นยังไกลหัวใจ แต่นี่ผ่าตรงหัวใจเลย ไม่กลัวก็บ้าแล้ว

ตอนที่ขมมี่ขึ้นเขียงผ่าตัด ช่วงเวลาที่นอนรอบนเตียงรถเข็นก่อนเข้าห้องผ่าตัด มันระทึกน่าดู ขมมี่ผ่าที่โรงพยาบาลรัฐบาลมีชื่อเสียง บรรยากาศบริเวณห้องผ่าตัดไม่ได้ย่ำแย่อะไร สะอาดสะอ้าน อาจจะไม่สวยงาม สะดวกสบาย ปรู๊ดปร๊าดเหมือนโรงพยาบาลเอกชน เจ้าหน้าที่เค้าเข็นคนไข้มาจอดรอเรียงกันอยู่สองข้างทางของห้องผ่าตัด (บริเวณนี้คนนอกเข้าไม่ได้ค่ะ) ทิ้งเราให้นอนมองเพดานไปซักครึ่งชั่วโมง ให้เรานอนคิดและจินตนาการไปต่างๆ นานา จากนั้นก็จะมีคนมาถามชื่อและนามสกุล ขมมี่รีบตอบด้วยเสียงดังฟังชัด กันผ่าพลาด ชั้นจะมาทำหมัน เดี๋ยวโดนเข็นเข้าห้องผิด ซวยเลย

และแล้วก็ถึงนาทีระทึกใจ เข้าห้องผ่าตัดแล้วค่ะ วิวที่เห็นจากมุมคนไข้บนเตียง คือห้องกว้างๆ ใหญ่ๆ สีขาว มีเตียงผ่าตัดอยู่ตรงกลาง เครื่องไม้เครื่องมือไม่มากอย่างที่เห็นในหนัง (แอบคิดในใจ : เออ ก็เรามาทำหมันที่นา ผ่าตัดเล็กน้อยจะเอาเครื่องมืออะไรมากมาย) แต่พอย้ายจากเตียงรถเข็นไปขึ้นเตียงผ่าตัดนี่สิ ใจหวิวเลย มองขึ้นไปเห็นแต่ไฟดวงบะเร่อทั้งนั้น เอาผ้าเขียวมาคลุมแล้วกั้นเป็นฉากระหว่าง หน้ากับท้อง จะได้ไม่เห็นตอนหวาดเสียว เอาละสิ เริ่มคิดเป็นตุเป็นตะตามที่เคยเห็นในข่าว ถ้าหมอ บล็อคหลังไม่ดี  ผ่าเสร็จแล้วเดินไม่ได้จะทำไง ลูกคนเล็กเพิ่งคลอดเมื่อวานนี้เองนะ นอยด์ หน่อย น่อย น้อย หน๋อย ตั้งต้นสวดมนต์ ขอให้การผ่าตัดผ่านพ้นไปด้วยดีเถอะเจ้าประคู๊ณ

คุณหมอที่ผ่าตัดเป็นนักศึกษาแพทย์ ไม่ใช่อาจารย์หมอที่มาทำคลอดให้เรา ปลอบใจตัวเอง หมอเค้าผ่านการฝึกมาเยอะแล้ว งานขี้หมูขี้หมาแบบนี้ไม่ต้องถึงมืออาจารย์หรอก เอาลูกศิษย์ไปจัดการก็พอก่อนผ่าก็ต้องบล็อคหลังก่อน คุณหมอที่วางยา (ก็นักศึกษาแพทย์อีกนั้นแหละ) บอกให้นอนตะแคง งอตัวให้มากที่สุดเหมือนกุ้ง แล้วหมอจะฉีดเข้ากลางหลังนิ่งๆ เข้าไว้นะคร๊าบ นิ่งแล้วค่ะคุณหมอ ไม่กล้าดุ๊กดิ๊กเลยแม้แต่น้อย จากนั้นเขาเอาสำลีจุ่มแอลกอฮอล์ มาเช็ดตามจุดต่างๆ ของร่างกาย พร้อมกับถามว่า เย็นมั๊ยครับ ขมมี่ตอบ เย็นค่ะ ถามอีก 2-3 ครั้ง ขมมี่ก็ยังเย็นอยู่ กลัวคุณหมอลงมีดก่อนยาจะออกฤทธิ์อ่ะ หมอไม่ถามแล้ว แปลว่ากรีดไปแล้วเหยอ

อีกประเดี๋ยวนึง มีคุณหมอเดินเข้ามา ฟังจากเสียงคาดว่าจะเป็นอาจารย์หมอเวร เข้ามาตรวจงาน ถามไถ่เรื่องการวางยา อาจารย์หมอคอมเมนท์ว่า "คุณทำแบบนี้ได้ไง" โอ้วแม่เจ้า มาคอมเมนท์กันต่อหน้าคนไข้ที่มีสติครบแบบนี้กันเลยเหรอคะ เพิ่งทำใจสงบได้ไม่นาน ประโยคนี้ของคุณหมอทำให้หลังเย็นวาบเลย คุณหมออย่าเพิ่งออกไปนะ อยู่ด้วยกันก่อน เผื่อเค้าเป็นไรไปหมอต้องช่วยเค้านะ

ระหว่างนั้น ทีมแพทย์และพยาบาลก็พูดคุยกันไปอย่างสนุกสนาน ดีค่ะดี บรรยากาศจะได้ไม่เคร่งเครียด แต่อย่าเมาท์เพลิน จนลืมไปว่ากำลังกรีดท้องคนอื่นอยู่นะคร๊า


ปล. การผ่าตัดครั้งนั้นผ่านพ้นไปด้วยดี ใช้เวลาแป๊บเดียว แผลก็เล็กนิ๊ดเดียว แต่เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่มิอาจลืม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น