ยังคงวนเวียนอยู่กับรถไฟฟ้านี่ละค่ะ ระหว่างรอรถ ไม่รู้จะทำไงก็สอดส่ายสายตามองโน่นนี่ไปเรื่อย ก่อนจะได้ก้าวขาขึ้นรถไฟฟ้า เชื่อว่าทุกคนต้องได้ยินเสียงนกหวีดของเจ้าหน้าที่ประจำสถานี ดังบาดหูเหลือเกิน มีพลังเท่าไหร่ พี่แกใส่เข้าไปหมดแม็ก ไม่ว่าใครหน้าไหนที่ย่างกรายล้ำเส้นเหลืองของพี่ พี่จะเป่าให้มันหูแตกตายกันไปตรงนั้นเลย
ทำไงได้ล่ะคะ ก็ในเมื่อมันเป็นถิ่นของเขา เราต้องเคารพกติกาของเจ้าถิ่น ผู้ที่มีนกหวีดเป็นอาวุธประจำกาย แต่บางทีก็สงสัยว่า พี่จะเป๊ะไปถึงไหนคะ มีอยู่วันนึงขมเอากระเป๋าลากไปด้วย ระหว่างยืนรอรถไฟ วางกระเป่าลากไว้ที่พื้นด้านหน้า ล้ำเข้าไปในเส้นสีเหลือง(เหลืองใหญ่)นิดหน่อย นิดหน่อยจริงๆ ค่ะท่านผู้ชม ส่วนอิฉันนั้นยืนอยู่ห่างจากเส้นเหลืองพอประมาณ พี่แกก็เป่า ๆๆๆ เอาซี๊ ถ้าไม่ถอยพี่ไม่หยุด ขมมี่ก็โรคจิต อยากให้พี่มีงานทำ ก็ให้พี่เป่าไปเรื่อยๆ สรุปว่าบ้าพอกัน ฮ่าฮ่า
ที่สถานีนี้จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติขึ้นรถไฟมากที่สุดเท่าที่สังเกตจากทุกๆ สถานี มีทั้งแขก จีนและฝรั่ง อีนี่ไม่อยากเมาท์พี่แขกเลย ยังไงก็ขอแอบเมาท์นิดนึง พี่แขกชอบมายืนประกบข้างๆ ขอร้องล่ะพี่แขกช่วยเถิบไปอีกสัก 3-4 ก้าวได้ไหมคะ อีขมมี่จะเป็นลมเครื่องเทศ ส่วนพี่จีนก็มาแบบล้งเล้งสุดฤทธิ์ แถมวันนั้นเอาทุเรียนขึ้นรถไฟด้วย อั๊ยย่ะ ส่วนพี่ฝรั่ง (ไม่รู้ชาติไหน หน้าตาเหมือนกันหมด) เข้าท่าหน่อย นิ่งๆ สำรวม แอบมีหล่อบ้างบางคนนะตะเอง กรี๊ด แต่ก็ชอบวางกระเป่าใบใหญ่ขวางประตู ลงกันไม่ได้เลยทีเดียว ถ้าเป็นไปได้ให้หลีกเลี่ยง ขบวนรถตู้ที่ 1-3 ส่วน 2 ตู้ท้ายขบวนชาวต่างชาติไม่ค่อยขึ้น มีแต่พี่ไทยด้วยกัน เบียดกันหน่อย แอบจิ๊จ๊ะกันไป พอหอมปากหอมคอ
แอบส่องหน้าคนขับ ดูไม่เคยทันซะที
ว่าแล้วก็หันมาดูตัวเอง วันนี้ทำหน้าที่ของเราได้ดีแล้วหรือยังนะ เห๊อะ กลับไปทำงานต่อดีกว่า